เรื่องเกี่ยวกับแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่หลายคนเข้าใจผิด

มันค่อนข้างน่าเสียดายที่ยังไม่มีแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จซ้ำได้แบบไม่จำกัด

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะเสื่อมสภาพในที่สุดเหมือนๆ กับแบตเตอรี่อื่นๆ  แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าก็ตาม

แบตเตอรี่ลิเธียมจะเริ่มสูญเสียความจุหลังจากการชาร์จไปแล้วกว่า 200-300 รอบ จากนั้นประสิทธิภาพจะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งแบตเตอรี่เริ่มสูญเสียประจุทั้งหมด โดยทั่วไปสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าคุณจะใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปแล้ว 4,000 ถึง 10,000 กิโลเมตร

ตามหลักการแล้ว อายุการใช้งาแบตเตอรี่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโดยมากแล้วจะสอดคล้องกับอายุการใช้งานของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโดยเฉลี่ย และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานนานแค่ไหน? ซึ่งอาจจะอยู่ตั้งแต่สองถึงสี่ปีหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การบำรุงรักษาที่ดี ความถี่ในการใช้งาน การชาร์จแบตเตอรี่และวิธีเก็บรักษา

ถ้าคุณใช้แบตเตอรี่คุณภาพต่ำอาจต้องเปลี่ยนก่อนชิ้นส่วนหลักอื่นๆ แต่จากประสบการณ์หลายปีเกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เราพบว่าเมื่อสกู๊ตเตอร์ใช้งานไม่ได้ ปัญหามักจะไม่ค่อยเกิดขึ้นจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จหรือความจุของแบตเตอรี่

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

เรียนรู้ประเภทแบตเตอรี่และความจุของรถสกู๊ตเตอร์ของคุณ

1. สิ่งที่ต้องมองหาในแบตเตอรี่

เมื่อคุณซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใหม่คุณจะต้องดูข้อกำหนด เช่น ประเภทแบตเตอรี่ ความจุและคุณภาพ แบตเตอรี่ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงย่อมดีกว่า ซึ่งจะสามารถให้พลังงานแก่มอเตอร์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้มากขึ้น (นั่นคือเหตุผลที่สกู๊ตเตอร์ประสิทธิภาพสูงเช่น Apollo Phantom มีแบตเตอรี่ขนาด 52V ขึ้นไป) อย่างไรก็ตาม แรงดันไฟฟ้าสูงไม่ได้หมายความว่าแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

ข้อมูลจำเพาะของแบตเตอรี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น การรู้และทำความเข้าใจข้อมูลจำเพาะ เช่น แรงดันไฟฟ้า แอมป์ชั่วโมง และวัตต์ชั่วโมง (หน่วยวัดของโวลต์ x แอมป์ชั่วโมง) สามารถช่วยคุณคำนวณอายุการใช้งานแบตเตอรี่และทำการประมาณระยะทางของคุณเอง

แบตเตอรี่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นชุดแบตเตอรี่สี่เหลี่ยมที่ประกอบด้วยเซลล์ขนาดเล็กที่ต่อเข้าด้วยกันเป็นอนุกรมหรือขนานกัน ขนาดของแบตเตอรี่ที่กำหนดคือตัวเลขที่อธิบายขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาวของเซลล์ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้เซลล์ 18650 (18 มม. x 65 มม.) ที่มีรูปร่างคล้ายกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่าแบตเตอรี่ AA เล็กน้อย 

เซลล์ 18,650 มีข้อดีหลายประการ ได้แก่ อายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ก็มีข้อเสียเช่นกันคือแบตเตอรี่จะมีความไวสูงต่ออุณหภูมิ เมื่อไม่นานมานี้ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมบางรุ่น เช่น Apollo Pro รุ่นปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง กำลังใช้เซลล์ขนาดใหญ่กว่า 21,700 เซลล์ เพื่อให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 60 ไมล์ หรือ 90 กิโลเมตร แบตเตอรี่เหล่านี้มีความจุและเอาต์พุตพลังงานที่สูงกว่า แต่ก็ต้องการการชาร์จ การจัดเก็บ และการดูแลที่เหมาะสมเช่นกัน

2. จะยืดอายุแบตเตอรี่ E-Scooter ได้อย่างไร?

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ายังขึ้นอยู่กับระดับการชาร์จและการเก็บรักษา รวมไปถึงการใช้งาน คุณสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ด้วยการดูแลแบตเตอรี่ด้วยเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เราแนะนําและใช้นิสัยการชาร์จเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ประสิทธิภาพสูงสุดก่อนที่แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมตาม การใช้งาน

การเรียนรู้วิธีการดูแลสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณและส่วนที่สำคัญที่สุดของแบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ที่จะเป็นนักขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ดีขึ้น

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะนับตามรอบการชาร์จ โดยทั่วไประบุไว้สำหรับแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าว่าอยู่ระหว่าง 300 – 500 รอบเต็มของการชาร์จ/คายประจุ ตัวเลขเหล่านี้เทียบเท่ากับการสึกหรอประมาณ 3,000 ถึง 10,000 ไมล์

Apollo Air Action

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าแบตเตอรี่จะเริ่มสูญเสียความสามารถในการเก็บประจุอย่างช้าๆ หลังจากรอบการชาร์จประมาณ 500 รอบ แบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะลดลงประมาณ 20% ของความจุทั้งหมด

หลังจากผ่านไป 2,000 ถึง 10,000 รอบแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์อาจสูญเสียความจุทั้งหมดประมาณ 30%-40 % จนกว่าแบตเตอรี่จะไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าเพียงพอสําหรับสกู๊ตเตอร์ได้ โดยทั่วไปคุณอาจจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อนที่มันจะหมดอายุการใช้ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าเป็นเรื่องยากที่แบตเตอรี่จะพังก่อนชิ้นส่วนหลักอื่นๆ ของสกู๊ตเตอร์

3. การดูแลแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์: แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด

แบตเตอรี่ก็เหมือนกับร่างกายมนุษย์ คือระบบกักเก็บและแลกเปลี่ยนพลังงาน และเช่นเดียวกับมนุษย์

สำหรับแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ค่าที่ได้มาตรฐานมักจะอยู่ระหว่าง 20% ถึง 80% ของการชาร์จไฟ พยายามหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟเกินหรือการปล่อยให้แบตหมดจนเหลือต่ำกว่า 20%

หน้าจอแสดงผลแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

การปล่อยชาร์จเมื่อไฟเต็มหรือการปล่อยให้ประจุไฟคลายตัวจนเกือบหมดอาจจะทำให้การใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง การที่คุณชาร์จแบตจนเต็ม 100% นั้นไม่เป็นอะไรถ้าคุณจำเป็นขี่ทางไกล แต่อย่าลืมถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อชาร์จแบตเต็มแล้วอย่าเสียบปลั๊กชาร์จแบตนานจนเกินไป

ไม่ควรชาร์จแบตเกินกำหนด

4. วิธีหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟเกิน

สกู๊ตเตอร์ในท้องตลาดส่วนมากจะมีหน้าจอแสดงปริมาณแบตเตอรี่เป็น % ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะคุณจะสามารถรู้ได้ว่าแบตเตอรี่ของคุณเต็ม 100% หรือยัง แต่ก็จะมีบางรุ่นตามท้องตลาดจะไม่แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ แต่คุณก็สามารถคาดเดาได้จากชั่วโมงการชาร์จตามที่ได้รับคำแนะนำ และไฟสถานะที่แบตเตอรี่เป็นสีเขียว

อย่างที่บอกครับการชาร์จแบตที่ดีควรอยู่ในค่าเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 80% แล้วถ้าเกิดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไม่มีค่าบอกควรทำอย่างไร ผมก็ต้องแนะนำว่าเมื่อแบตเป็นสีเขียวแนะนำให้ถอดที่ชาร์จออกทันที เพราะไฟแสดงสถานะเป็นสีเขียวไม่ได้หมายความว่าการชาร์จแบตเต็มทันที 100% 

5. อย่าปล่อยให้แบตหมด

เมื่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถูกปล่อยออกมาจนหมดจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงเลยก็คือถ้าหากเราไม่ได้ใช้งานบ่อยพยายามให้แบตเตอรี่มีประจุไฟไม่ต่ำกว่า 50% และควรตรวจเช็กอย่างเสมอ การที่ผมให้คุณพยายามรักษาระดับประจุแบตเตอรี่เอาไว้ที่ 50% นั้นก็เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนหายไปจากแบตและป้องกันแบตเตอรี่คายประจุจนหมด ซึ่งจะทำให้จำนวนรอบการชาร์จของแบตเตอรี่สั้นลง รวมไปถึงอายุการใช้งานด้วย

6. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป

นอกจากการชาร์จและการคายประจุแล้ว อุณหภูมิที่สูงเกินไปยังส่งผลต่ออายุการใช้งานและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อีกด้วย ความร้อนเร่งการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ในขณะที่อุณหภูมิเย็นจัดสามารถลดความจุของแบตเตอรี่ได้

แบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่หลากหลาย แต่การทำให้สกู๊ตเตอร์ของคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง

ตามหลักการแล้ว เก็บสกู๊ตเตอร์และแบตเตอรี่ไว้ในที่แห้งและเย็นซึ่งมีอุณหภูมิตั้งแต่ 32F (0°C) ถึง 77F  (25°C) อย่าเก็บสกู๊ตเตอร์ของคุณไว้ในที่ที่โดนแสงแดดส่องถึงโดยตรง และอย่าทิ้งไว้ในรถที่ปิดล็อกในวันฤดูร้อนอากาศไม่ถ่ายเท 

หากคุณขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด เราอยากแนะนำหลังจากใช้งานควรคุณปล่อยให้แบตเตอรี่เย็นลงหรืออุ่นขึ้นตามอุณภูมิห้องก่อนจะเสียบชาร์จ

7. ความสำคัญของการบำรุงรักษาและการอัปเดตเฟิร์มแวร์

การบำรุงรักษาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขั้นพื้นฐานทั้งหมดจะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่โดยทำให้ผู้ใช้งานแน่ใจว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และทำให้ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลงในขณะที่ใช้งานได้ไกลและเร็วขึ้น

การบำรุงรักษาที่เหมาะสมรวมถึงการตรวจสอบให้แน่ใจว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของคุณมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ล่าสุด เช่นเดียวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตโดย Apollo สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ผสาน IoT (Internet of Things) สามารถรวมการอัปเดตเฟิร์มแวร์ตามข้อมูลและสถิติของผู้ขับขี่ในโลกแห่งความเป็นจริง

8. สกู๊ตเตอร์ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุดจาก Apollo

ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซอฟต์แวร์ ตัวควบคุม และระบบการจัดการแบตเตอรี่ทำให้ผู้ผลิตระดับพรีเมียมอย่าง Apollo สามารถสร้างสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ไปได้ไกลกว่าที่เคยเป็นมา

Apollo เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีระยะทางไกลที่สุดในระดับเดียวกัน Pro รุ่นใหม่ (ซึ่งไม่เหมือนกับ “Pro” รุ่นเดิมที่วางตลาดในปี 2021 เลย) คาดว่าจะมีระยะทางจะวิ่งได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร (62 ไมล์) ด้วยแบตเตอรี่ 21700 ที่ใหญ่ขึ้น (ด้วยเหตุนี้สกู๊ตเตอร์จึงมีความหนามากขึ้น)

2023 Explore ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ Apollo นำกลับมาจากอดีตสำหรับสกู๊ตเตอร์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง น่าจะมีสเปคที่คล้ายกัน 

ในความเป็นจริง Apollo ได้ผลิตสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่มีระยะทางยาวที่สุดในตลาดมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ Apollo Air ปี 2022 ซึ่ง ESG ได้ทดสอบที่ระยะทาง 31 ไมล์ ไปจนถึง Apollo City 2022 และ City Pro ที่มีระยะทาง 30 และ 38 ไมล์ ตามลำดับ

9. ระยะทางของ Apollo Scooters แต่ละรุ่น

  • Apollo Air ระยะทางสูงสุด 50 กิโลเมตร
  • Apollo City ระยะทางสูงสุด 48 กิโลเมตร
  • Apollo City Pro ระยะทางสูงสุด 61 กิโลเมตร
  • Apollo Ghost ระยะทางสูงสุด 60 กิโลเมตร
  • Apollo Phantom ระยะทางสูงสุด 64 กิโลเมตร

ที่มา https://apolloscooters.co