คำตอบของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ก็คือการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทางเลือกอย่างรถไฟฟ้า ไม่เพียงแต่ค่ายรถอย่างเทสล่าและนิสสันคือผู้บุกเบิกในเรื่องนี้ แต่ยังมีแบรนด์อื่นอย่าง โฟล์คสวาเก้น โตโยต้าและค่ายรถยนต์สัญชาติจีนอื่นๆ ที่กำลังเร่งผลิตรถไฟฟ้าเช่นกัน บริษัทเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายรถยนต์ ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องการลดโลกร้อนก็คือการที่พวกเขาต้องผลิตรถที่ใช้พลังงานสะอาดมากที่สุด เงินจำนวนหลายพันล้านเหรียญได้ถูกลงทุนเพื่อเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
แต่ปัญหาก็คือ: แม้หน่วยงานต่างๆ จะคาดการณ์ไว้ว่าผู้คนจะเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าถึง 30% ของรถที่ขายทั้งหมดในปี 2030 และการคาดการณ์เหล่านี้ก็คิดเห็นตรงกันว่ารถยนต์ที่ใช้ทั้งหมดในโลกจะยังคงไม่เป็นรถไฟฟ้าอย่างน้อยก็ต้องรอถึงปี 2050 หรืออีกนัยหนึ่งก็คือมันยังช้าเกินไป
แล้วเรื่องนี้สำคัญอย่างไร? ที่มันสำคัญเพราะว่าอุตสาหกรรมกำลังตีโจทย์ในเรื่องนี้ไปผิดทาง
รถยนต์ถูกซื้อมาเพื่อใช้เดินทาง และถ้าคุณดูจากสถิติของทริปเหล่านั้น คุณจะเห็นว่าการเดินทางส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระยะสั้น จากกราฟด้านล่างจะเห็นว่า 80% ของการเดินทางเกิดในระยะทางที่ไม่เกิน 12 ไมล์
และทริปสั้นๆ เหล่านี้ก็ปล่อยไอเสียมามากที่สุด
และในเรื่องนี้ การเกิดขึ้นของรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กและจักรยาน หรือที่เราเรียกว่า การเดินทางโดย micromobility จึงมีความสำคัญในการลดไอเสีย
e-bike และสกู๊ตเตอร์จึงเหมาะกับการเดินทางในระยะสั้นๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปภายใน การเดินทางในระยะเท่ากันแล้ว e-bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าปล่อยไอเสียเพียงแค่ 1-2% ของรถยนต์ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือต้องใช้รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าถึง 50 คันที่จะปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับรถยนต์ 1 คัน
และเมื่อเราได้ลองขี่รถเหล่านี้ที่เรียกว่า lightweight electric vehicles (LEVs) เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่แต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ดีก็ยังไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ รถ LEVs ก็เช่นกัน มันอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยนักเมื่อเทียบกับรถยนต์ รวมทั้งไม่สามารถกันน้ำได้ หรือมันไม่ได้หรูหราเท่ารถยนต์. แต่มันก็ชนะรถยนต์ในเรื่องสำคัญอื่นๆ เช่น มันทำให้การเดินทางได้สะดวก รวดเร็วกว่าในที่ๆรถติด มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าต่อระยะทาง และมันมอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกกว่า ดังที่มันสะท้อนในยอดขายในกราฟด้านล่าง
E-bike ได้ทำยอดขายมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในอัตราส่วน 10:1 ในยุโรป และ 20:1 ในประเทศจีน. และที่มากกว่านั้น micromobility สามารถทำยอดขายได้สูงแม้ปราศจากการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องนโยบายภาษีหรือโครงสร้างถนนที่เหมาะสม
แต่อย่างไรก็ตาม micromobility ก็ยังถูกละลายจากองค์กรการเคลื่อนไหวที่ลดโลกร้อน ถ้านักกิจกรรมเหล่านี้ต้องการที่จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ พวกเขาก็ควรหันมาใช้พาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พวกเขาควรลองมาใช้จักรยานไฟฟ้าหรือรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงการร่วมรณรงค์สนับสนุนอย่างจริงจังให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดการใช้ micromobility ให้มากขึ้น
ที่มา https://micromobility.io/blog/2019/10/22/if-you-care-about-climate-change-you-should-care-about-micromobility