5 ข้อที่ผู้ใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามักเข้าใจผิด

5 ข้อที่ผู้ใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามักเข้าใจผิด สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหรือ E-Scooter เป็นพาหนะใหม่ที่ ในการเกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อการเดินทางในระยะสั้น และลดอัตราการปล่อย คาร์บอนไดออกไซด์ แต่เชื่อหรือไม่ครับว่าอาจจะมีหลายคนเข้าใจผิดและอาจทำให้สกู๊ตเตอร์ที่เรารักเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด ผมได้รวบรวมมาให้กับทุกท่านได้อ่านกันแล้วโดยจะเน้นแค่เพียง 5 ข้อ หลักที่มีผลมากที่สุดโดย 5 ข้อ นี้จะมีอะไรบ้างเราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยครับ

บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจ 5 ข้อ ในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

1  แบตเตอรี่ไม่หมดหรือลดนิดหน่อยก็ชาร์จไว้ก่อนอุ่นใจกว่า

ส่วนมากผู้ใช้งานมือใหม่จะชอบชาร์จแบตเตอรี่บ่อยหรือชอบปล่อยให้แบตเตอรี่เหลือน้อยเกินไป 

ผมเข้าใจในหัวข้อแรกว่าทำไมเราต้องชาร์จบ่อยๆ เพราะเราอาจจะกลัวว่าแบตจะหมดระหว่างใช้งาน เพราะฉะนั้นเมื่อใช้งานเสร็จ 1 ครั้งก็ชาร์จ 1 รอบ เพื่อความอุ่นใจใช่ไหมครับ ?

 

การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี่ในตัวทั่วไป ถ้าผู้ใช้ปล่อยให้แบตเหลือต่ำกว่า 20% เมื่อถึงเวลาต้องชาร์จแบตจะใช้กำลังไฟในการชาร์จมากกว่าเดิมอาจจะเกิดความร้อนในแบตเตอรี่สูงกว่าปกติซึ่งเป็นสาเหตุแรกที่จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพได้เร็ว

 

สาเหตุที่สองที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ นั่นคือการที่ผู้ใช้งานชาร์จแบตเตอรี่บ่อยจนเกินไป ผู้ใช้งานอาจจะชาร์จทุกครั้งที่แบตเหลือ 90% เพราะกลัวว่าแบตจะหมดระหว่างการใช้งาน ซึ่งการชาร์จบ่อยจนเกินไปในการนับรอบอายุของแบตเตอรี่ก็มีการนับทุกครั้งที่เราชาร์จแบตเตอรี่ทำให้อายุของแบตสั้นลง

 

สำหรับในการชาร์จแบตเตอรี่ไว้ข้ามคืนนั้นมีความปลอดภัย คุณจะได้แบตเตอรี่ที่เต็มเปี่ยมและพร้อมต่อการนำไปใช้ในตอนเช้า แต่ต้องแน่ใจว่าหลังจากตื่นมาแล้วควรถอดปลั๊กชาร์จทันที หรือทันทีที่แท่นชาร์จขึ้นไฟเขียว เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ให้อายุยาวนานขึ้นนะครับ

2. การไม่คำนวณระยะทางของแบตเตอรี่

เราได้กล่าวถึงเคล็ดลับพื้นฐานข้อแรกเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของคุณชาร์จเพียงพอ แต่ไม่มากเกินไป ข้อต่อมาเราจะพูดถึงการจัดการแบตเตอรี่เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

คุณจะจัดการแบตเตอรี่และการเดินทางของคุณอย่างมืออาชีพได้อย่างไร?

 

ก่อนจะเริ่มการเดินทางสิ่งที่คุณต้องทำคือการวางแผนการเดินทางไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง ไป-กลับ สำรวจว่าถ้าในกรณีแบตเตอรี่หมดจะสามารถชาร์จได้จากที่ไหนบ้าง รวมไปถึงดูสภาพการจราจรเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด

 

 Apollo City ปี 2022 ได้มีการออกแบบเพิ่มคันเร่งเบรกที่สร้างมาใหม่โดยเฉพาะ สามารถคืนไฟทุกครั้งที่คุณทำการเบรก (Regenerative braking) ซึ่งช่วยรักษาระดับแบตเตอรี่ของคุณ รวมไปถึงลดค่าบำรุงรักษา

 

3. การใช้งานสกู๊ตเตอร์เหมือนมอเตอร์ไซค์ผาดโผน

 Apollo Scooters มีระบบกันสะเทือนที่สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้ เพื่อนๆ เชื่อหรือไม่ครับว่าปัจจุบันนี้สกู๊ตเตอร์เป็นมากกว่ายานพาหนะที่ใช้ขี่ทั่วไป จะมีคนกลุ่มนึงนิยมนำสกู๊ตเตอร์นำไปเล่นผาดโผนเป็นพิเศษ ยิ่งถ้ามีสกู๊ตเตอร์คุณภาพสูงอย่าง Ghost หรือ Phantom ทำให้เกิดความเร้าใจอยากนำมากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง หรือกระโดดข้ามเนินแบบมอเตอร์ไซค์วิบาก (ก็มันแรงและประสิทธิภาพดีขนาดนี้ใครจะอดใจไหว ขนาดผู้เขียนเองก็ยังรู้สึกอยากจะทำเช่นกัน)

 

แม้ว่าสกู๊ตเตอร์เหล่านี้จะมีระบบกันสะเทือนที่ทนทานเพื่อรองรับการกระแทกบนท้องถนน แต่ก็ไม่ได้มีไว้สำหรับทำโลดโผนและกระแทกแรงๆ ซ้ำๆ

ผู้ใช้งานสกู๊ตเตอร์จะรู้ดีว่าต้องดูแลสกู๊ตเตอร์ของตนอย่างไร และใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้เท่านั้น (ห้ามใจไว้นะครับถ้าอยากให้อยู่กับเรานานๆ)

 

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไม่ได้ออกแบบมาให้เหมือนรถจักรยานยนต์วิบาก หรือจักรยานเสือภูเขาที่มีระยะยุบตัว 6 นิ้วในระบบกันสะเทือน ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อกระโดดและลงจากที่สูงเหมือนกีฬา X-games ให้กับมือนักกีฬาผาดโผนตัวจริง

 

4. เรื่องของการขับกลางสายฝน

ปัจจุบันสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถขับลุยน้ำได้แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด คุณควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ท่ามกลางสายฝน

 

สกู๊ตเตอร์ส่วนใหญ่กันน้ำได้ในระดับ IP54 โดยเฉลี่ย แต่ไม่มีสกู๊ตเตอร์ใดที่ได้รับการคุ้มครองจากความเสียหายจากน้ำภายใต้การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต

 

ดังนั้นการเดินทางท่ามกลางสายฝนหรือในสภาพอากาศเปียกชื้นอาจจะไม่เป็นไร แต่ก็ยังไม่แนะนำเนื่องจากน้ำฝนอาจจะเข้าไปยังส่วนต่างๆ และสะสมความชื้นอยู่ภายในระบบไฟฟ้าของรถ E-Scooters และการขับลงน้ำในแอ่งใหญ่ๆ โดยไม่ได้รีบเช็ดน้ำออกหรือทำให้แห้งโดยเร็ว อาจทำให้มีความชื้นมากเกินไป ทำให้น้ำหรือความชื้นซึมเข้าไปในมอเตอร์และช่องใส่แบตเตอรี่อาจทำให้เป็นปัญหาของสกู๊ตเตอร์ของคุณได้

 

หากคุณจำเป็นหรือบังเอิญต้องขี่ท่ามกลางสายฝนทางที่ดีควรทำความสะอาดเช็ดและเป่าพัดลมให้แห้งโดยเร็วที่สุด เมื่อทำความสะอาดสกู๊ตเตอร์เสร็จแล้วหลังจากนั้น ให้ปล่อยแห้งก่อนชาร์จหรือเปิดใช้งานสกู๊ตเตอร์ใหม่อีกครั้ง แต่ทางที่ดีที่สุดเมื่อเจอฝนตกหรือแอ่งน้ำควรหลีกเลี่ยง

5. สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใช้อย่างเดียวได้ไม่ต้องดูแลหรือบำรุงรักษา

ข้อสุดท้ายที่เราจะกล่าวถึงก็คือการไม่ดูแลสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าการทำความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสกู๊ตเตอร์ของเรา นอกจากนี้เรายังต้องหมั่นดูแลรักษาเบรกรวมไปถึงหล่อลื่นในชิ้นส่วนต่างๆ ที่ใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าสกู๊ตเตอร์ของเราจะใช้ได้อีกนาน และนอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่มีราคาแพงกว่าค่าดูแล

 

เพียงแค่คุณเข้าใจใน 5 ข้อข้างต้นนั้นจะทำให้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อีกนาน และคุณจะมีความสุขกับการใช้งานและการขับขี่รถสกู๊ตเตอร์ของคุณ